ความสำคัญของ Price จาก 4P


หลักการตลาด 4P และความสำคัญของ P-Pricing
ช่วงนี้หลายคนพูดถึงเรื่องของการตลาดกันเยอะมาก แบรนด์ต่างๆกำลังให้ความสนใจ ให้ความสำคัญกับเรื่องของการลงทุนลงแรงทางด้านการตลาดมากขึ้น และมีคนพูดถึงเรื่องการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ การทำสินค้าใหม่ หรือการหาช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ๆเยอะมาก แต่อีกหนึ่งเรื่องที่นักการตลาดมักมองข้ามเสมอและเมื่อถึงเวลาเมื่อพูดคำนี้เมื่อไหร่เป็นต้องหันหน้าหนีทุกที สาเหตุก็เพราะว่าตัวเลขนั้นเยอะ คือการตลาดนั้นไม่พ้น 4P ก็คือ
-Product สินค้าบริการ
-Price ก็คือราคา
-Place คือช่องทางการจัดจำหน่าย
-Promotion การสื่อสารทางการตลาด
คนชอบพูด P แรก P ที่ 3 และ 4 Product หรือสินค้าเป็นอย่างไร บริการต้องทำอย่างไรบ้าง ทำสีสันให้สดใส ขนาดเป็นอย่างไร แพ็คเกจจิ้งเป็นอย่างไร และขายที่ไหนดี จะขายที่ร้านสะดวกซื้อหรือไปขายที่ร้านขายของชำ หรือว่าจะไปขายบนออนไลน์ รวมถึงคุยเรื่องของโปรโมชั่น จะลดราคาแลกอะไร แจกอะไร แถมอะไร จะทำการโฆษณาประชาสัมพันธ์อย่างไร แต่ว่า P ที่คนการตลาดชอบข้ามมากเลยคือ P ตัวที่ 2 คือ P-Pricing หรือการตั้งราคา
พอพูดถึงการตลาดคนก็จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าการตั้งราคานั้นน่าปวดหัวมากเพราะว่ามันเป็นตัวเลข ต้องคิดทั้งต้นทุนซึ่งก็มีหลากหลายรูปแบบ มีทั้งต้นทุนคงที่ ต้นทุนผันแปร ต้นทุนรวม ซึ่งทำให้นักการตลาดไม่ชอบทำให้ไม่ยุ่งกับ P-Pricing สักเท่าไหร่ และปล่อยให้ฝ่ายอื่นคิดราคาแทน ส่วนนักการตลาดเอาเวลาไปทำโปรโมชั่นดีกว่า สุดท้ายแล้วสิ่งที่น่าสนใจคือ P ที่คนสนใจ Product, Place และ Promotion ไม่ใช่ P ที่สร้างรายได้แก่องค์กร ในทางกลับกันเป็น P ที่สร้างรายจ่ายแก่องค์กร
-Product คือการหาผลิตภัณฑ์ใหม่มาขาย จะผลิตสินค้าใหม่ขึ้นมาก็ต้องไปลงทุนเครื่องจักร เพราะฉะนั้น Product จึงเป็น P ที่มีต้นทุนเยอะ
-Place สมัยนี้จะเข้าร้านสะดวกซื้อชื่อดัง จะนำสินค้าเข้าไปวางขายบางทีต้องเสียเงินหลายแสนบาท 300,000 บ้าง 400,000 บ้าง หรือ 500,000 บ้างก็จะทำให้เดือดร้อนใจ ขายไปได้ 3-4 เดือน ขายไม่ดี เขาก็สามารถลบทิ้งออกจากชั้นวางของ ทำให้ต้องเข้าไปใหม่และเสียเงินใหม่ แถมต้องเสียค่าขนส่งอีก ทำให้ต้นทุนของ P-Place นั้นเยอะไม่แพ้กัน
-Promotion ต้นทุนทั้งนั้น โฆษณา ประชาสัมพันธ์ โฆษณาบนทีวีไม่ทันไรก็เสียไปแล้ว 400,000 บาท
เพราะฉะนั้น P อื่นๆจึงสร้างรายจ่ายเยอะมาก sbobet mobile  มีเพียง P เดียวเท่านั้นเท่านั้นที่สร้างรายรับคือ P-Pricing นั่นเอง

แนะนำเว็บขุดบิทคอยน์

BitMiner - free and simple next generation Bitcoin mining software

แนะนำอีก1เว็บสำหรับนักขุดบิทคอยน์ ชื่อเว็บ BitMiner.io เว็บนี้เหมาะสำหรับนักลงทุนขุดบนคลาวน์ 
วิธีสมัครง่ายๆครับ แค่ใส่เลขกระเป๋าบิทคอยน์ก็เริ่มขุดได้แล้วครับ ไม่ต้องเปิดเครื่องทิ้งไว้ให้เปลืองไฟ สมัครแล้วสามารถปิดเครื่องปิดเว็บไปทำงานอย่างอื่นได้เลย
สำหรับวิธีลงทุน

1. เริ่มแรก BitMiner V1.0 ฟรี (รูปห้องโทรมๆ)
  • กำไร 40 ซาโตชิ / นาที 
  • กำไร 0.0006 BTC /วัน
  • โบนัสจากการทำ Affiliate 20% 

กรุงเทพติดอันดับ Facebook account มากที่สุดในโลก

กรุงเทพเป็นเมืองหลวงที่เล่นเฟสบุ๊กมากที่สุดในโลก

ในยุคที่โซเชียลเน็ตเวิร์คครองเมือง ปัจจุบันคนไทยมีบัญชีเฟสบุ๊ก 16ล้าน Account มากติดอันดับที่16ของโลก จากจำนวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตกว่า 18ล้านคน เกือบทุกคนที่เล่นอินเตอร์เน็ตจะมี Account Facebook มากถึง 88%  แต่ถ้านำไปเปรียบกับเมืองหลวงอื่นๆ กรุงเทพเมืองฟ้าอมรของเรามีจำนวนผู้เล่นเฟสบุ๊กมากถึง 8.6ล้านคน (เกือบทั้งจังหวัดเลยเชียว) แต่ก็อย่างว่าแหละครับ มันรวมทั้งAccount ปลอม Account ที่เลิกใช้แล้ว Account ซ้ำ เอาไว้ทั้งหมด(ไม่รู้จะมีกันทำไมเยอะแยะ) อีกทั้งยังมีผู้คนที่ไม่ได้อ้างอิงจากแหล่งภูมิลำเนาที่แท้จริงอีกเพียบ แต่ยังไงเราก็ติดอันดับหนึ่งอยู่ดีเพราะประเทศอื่นๆ ก็คงเหมือนๆ กันกับเรา


Fanslave.net



หลายคนอาจสงสัย Fanslave.net มันเอาไว้ทำอะไร ก็เป็นเว็บๆ หนึ่งแหละครับที่เอาไว้สำหรับโปรโมทเพจเฟสบุ๊ก(เพิ่มไลค์) หรือ ทวิสเตอร์(เพิ่มFollow)นั้นเอง ซึ่งเป็นเว็บที่สามารถเพิ่มไลค์ และมีคะแนนเอาไปแลกเป็นเงินได้ครับ

เหนื่อยไหม! กับการทำธุรกิจเครือข่ายด้วย เทคนิคและวิธีการที่ไม่ได้ผล


ดัดแปลงบางส่วนจาก คุณกมลเวช เมืองศรี

นักธุรกิจ นักการตลาด นักขาย MLM ธุรกิจขายตรง ตอนนี้คุณกำลังเหนื่อยอยู่หรือเปล่า! กับการทำธุรกิจเครือข่ายด้วย เทคนิคและวิธีการที่ไม่ได้ผล
ถ้าคุณกำลังรู้สึกว่าจะไปต่อไม่ไหว  ตัวผมเอง ก็เคยเหนื่อยแบบเดียวกับคุณเช่นกัน กับวิธีการเดิมๆ ที่เราอาจเคยได้ใช้กัน
ผมเคยได้รับการสอนมา ด้วยวิธีการเดิมๆ มาก่อน
  • การชวนคนทุกคนที่เข้ามาในชีวิตเรา
  •  การแจกใบปลิว
  •  การตีหน้าเศร้าขอความเห็นใจ เพื่อชวนเพื่อนหรือญาติ เข้าร่วมธุรกิจ
  • การชวนคนไปงานเปิดโอกาสทางธุรกิจตามโรงแรม (งานก็ฟรี แต่ไม่มีใครอยากไป)
  • การยอมตื๊อผู้มุ่งหวังให้สมัครทำธุรกิจกับเราและอีกสารพัด ฯลฯ

กลยุทธ์การตลาดที่ 4  ลงชื่อเว็บไซต์ของคุณใน Search Engine  
ค่าใช้จ่าย : ฟรี
ประสิทธิภาพ : ดีเยี่ยม
วัตถุประสงค์: สร้างการติดต่อครั้งแรก

จากในบทที่ 1-3 ไม่ว่าคุณจะทำได้ถูกต้องหรือดีเพียงใดแต่หากยังไม่สามารถไปลงชื่อในเสิร์ชเอ็นจิ้นทำให้รู้จักเว็บของเราได้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร
และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่คุณต้องไปลงชื่อแล้วล่ะวิธีลงชื่อใน Search Engine สามารถทำได้ดังนี้
1.จ้างให้ใครสักคนทำให้คุณ
2.ใช้บริการจากเว็บที่ช่วยสมัครให้เราฟรี
3.สมัครด้วยตัวคุณเอง

มีหลายบริษัทที่รับจ้างลงทะเบียนให้คุณแต่คุณต้องเสียค่าใช้จ่ายนั่นคุณคงไม่ชอบใช่ไหมครับ สำหรับทางเลือกที่ 2 ค่อนข้างอันตรายเพราะบริการฟรีเหล่านี้ไม่ได้บอกเราว่าจะไปลงให้ที่ไหนบ้าง หรือไปสมัครแล้วได้ผลยังไง และในความเป็นจริงแล้วเค้าอาจแค่ต้องการอีเมล์ของคุณไว้สำหรับทำการตลาดเท่านั้นเอง
ทางที่ดีที่สุดคือทำด้วยตัวเองครับ เอาล่ะเรามาดูขั้นตอนกันว่าเราต้องทำอะไรกันบ้าง ซึ่งสามารถทำได้ 2 แบบ
แบบที่ 1 เข้าไปที่ www.selfpromotion.com ที่ใช้สคริปต์ในการช่วยคุณสมัครเสริร์ชเอ็นจิ้นแต่ละแห่ง
แบบที่ 2 เข้าไปสมัครเอง ในแต่ละแห่ง ตรวจดูรายชื่อ Search Engine ได้ทั้งหมดที่ www.webmastertechniques.com/webmarketing
และรายชื่อSearch Engine 5 อันดับที่อยากแนะนำคือ

1. Google ที่ http://www.google.co.th/addurl/?continue=/addurl
2. Yahoo ที่ https://siteexplorer.search.yahoo.com/submit
3. DMOZ ที่ http://www.dmoz.org/
4.Whatuseek ที่ http://www.whatuseek.com/addurl.shtml
5. Free Add Url ที่ http://www.freeaddurl.org/cgi-bin/add.cgi

สำหรับขั้นตอนและวิธีการไปดูโดยคร่าวๆ ได้ที่ เว็บล็อกนี้ครับ คลิก!

ใช้ Meta tag

กลยุทธ์การตลาดที่ 3  ใช้ Meta tag ในการเขียนโค้ด HTML 
ค่าใช้จ่าย : ฟรี
ประสิทธิภาพ : ดีเยี่ยม
วัตถุประสงค์: สร้างการติดต่อครั้งแรก


Meta tags เป็นข้อความที่เราประกาศเอาไว้ใน Code จะไม่แสดงผลในเว็บเพจ โดยเป็นเนื้อหาที่เกี่ยวกับเว็บไซต์ , Keywords ที่ใช้ที่เกี่ยวข้อกับเว็บไซต์ Search Engine จะทำการเก็บรายละเอียดพวกนี้ไว้อ้างอิงเว็บไซต์เรา

ถ้าเราไม่เขียนก็ได้ แต่ Search Engine จะทำการหาข้อความ หรือเนื้อหาที่ปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ไปแทน ซึ่งอาจไม่ใช่ใจความสำคัญ หรือส่วนสำคัญของเว็บไซต์ของเราก็ได้ จะเป็นการดีมากถ้าเราสละเวลาเล็กน้อยเพื่อเขียนรายละเอียดส่วนนี้

Meta tags นั้นมีไว้สำหรับใส่รายละเอียดของ Metadata ซึ่งจะบรรยายรายละเอียดเกี่ยวกับเว็บเพจที่ำกำลังแสดงผลอยู่ metadata ไม่ได้ถูกคิดค้นมาเพื่อใช้งานกับเว็บเพจ เพราะแรกเริ่มเดิมทีนั้น metadata ได้ถูกใช้ในกลุ่มพัฒนาฐานข้อมูลที่อ้างอิงถึงสารสนเทศ ในห้องสมุดเพื่อให้บรรณารักษ์ได้ใช้ในการจัดการระบบห้องสมุด ซึ่งถ้าหากจะว่าไปแล้วเราก็อาจเปรียบเทียบได้ว่า เว็บเพจต่างๆ นั้นเปรียบเสมือนห้องสมุดโลกขนาดใหญ่ ด้วยเหตุผลนี้เองจึงได้มีแนวความคิดในการนำ metadata มาประยุกต์ใช้กับเว็บเพจต่างๆ

ตัวอย่างการใช้งาน Meta tags นั้นเราจะเขียน code ให้อยู่ในส่วนของ <HEAD></HEAD> ในหน้าเว็บเพจที่เราต้องการใช้ Meta tags ตัว Meta tags เองนั้นมีมากมายหลายแบบ จะขอกล่าวแบบที่นิยมใช้กันดังนี้


สำหรับรายระเอียดในการเขียนสามารถศึกษาได้จากหนังสือต่างๆ ครับหรือตามเว็บไซต์ที่สอนวิธีการเเขียน